มาร่วมสร้างข่าวดีสู้ข่าวร้าย ด้วยสูตร(ไม่ลับ)

7 แนวทางการสื่อสาร ของผู้นำในภาวะวิกฤต
August 21, 2021
เมืองไทยในฝันของคุณ เป็นแบบไหน ?
August 21, 2021

1 มิถุนายน 2564

บทความโดย ดร.อุดม หงส์ชาติกุล ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาด้านการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเชิงบวก ผู้ก่อตั้ง Social Lab ประเทศไทย และผู้นำการขับเคลื่อนสังคมสุขภาวะ Imagine Thailand Movement  

การสร้างความหวัง ความเชื่อมั่น ความไว้วางใจเป็นสิ่งจำเป็นในขณะนี้!!! และการเปลี่ยนเชิงระบบ จะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ ความเมตตา ความเอื้ออาทร ความรัก 

ท่ามกลางข่าวสารที่หลั่งไหลเข้ามาทั้งที่เราต้องการทราบและไม่ต้องการทราบ โดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม ความท้าทายคือในแต่ละวันที่เราได้รับข่าวสารมากมาย  และจำนวนไม่น้อยมักจะเป็นข่าวร้าย ที่สร้างให้เกิดอารมณ์ด้านลบ ทำให้หดหู่ หมดกำลังใจ เราจะจัดการอย่างไร  และคุณเคยลองสังเกตุดูบ้างไหมว่า ระหว่างเสพข่าวร้ายกับเสพข่าวดี สมองมนุษย์เราเปิดรับข่าวชนิดไหนได้ง่ายและรวดเร็วกว่ากัน 

โดยธรรมชาติแล้วมนุษย์ซึ่งมีสัญชาตญาณเพื่อการเอาตัวรอดและรับรู้ถึงภัยคุกคามได้รวดเร็ว มนุษย์จึงจะสามารถรับรู้สื่อด้านลบได้ง่ายและรวดเร็วกว่า  ทว่าการรับสื่อด้านลบมากๆ นั้นย่อมไม่ดีต่อสุขภาวะใจและกาย จึงเป็นความสำคัญและจำเป็นที่มนุษย์จะต้องเสพข่าวดีเข้าไปบาลานซ์  ให้มีความสมดุล คือให้กายมีพลัง  ใจมีกำลัง และมีความหวัง มีพลังงานเชิงบวก ทว่า สัดส่วนในการรับข่าวสารของมนุษย์ควรเป็นอย่างไร

 ในศาสตร์ด้านจิตวิทยาเชิงบวก มีการศึกษาเรื่องการสื่อสารเพื่อสร้างให้เกิดสุขภาวะ จากการศึกษาวิจัยเรื่อง Positivity Ratio ของคุณบาบาร่า เฟรดดริคซั่น Barbara Fredrickson พบว่าในสถานการณ์ทั่วไป หรือภาวะปกติ เพื่อให้พวกเรายังคงอยู่ได้อย่างไม่เครียด ไม่หมดกำลังใจ มีความสุข เราควรเสพสื่อหรือรับข้อมูลเชิงบวก หรือมีกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ ในชีวิต ในสัดส่วนประมาณ 3:1”   

นั่นหมายถึงว่าเมื่อเราได้รับข่าวร้าย หรืออยู่ในสถานการณ์ที่สร้างให้เกิดอารมณ์เชิงลบ 1 เรื่อง เราต้องพยายามหาข่าวดีที่สร้างอารมณ์เชิงบวก หรือสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ที่ให้กำลังใจตนเองและคนรอบข้างอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อให้เรายังคงรักษาสมดุลสุขภาวะไว้ได้ ทั้งนี้การที่เราสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้ผู้อื่น ก็สามารถสร้างพลังงานเชิงบวกให้ตัวเราเองด้วย อย่างไรก็ตามในสถานการณ์วิกฤต เช่นในภาวะสงคราม การขัดแย้งรุนแรงในสังคม หรือในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ดังที่ทั่วโลกและประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ผลการวิจัยของคุณบาบาร่า เฟรดดริคซั่น Barbara Fredrickson พบว่าสัดส่วนการรับข่าวสาร หรือมีกิจกรรมต่างๆ ควรจะเป็นอย่างน้อย 6:1 นั่นคือเราควรได้รับข่าวสารในเชิงบวก ในเชิงความหวังกำลังใจ หรือสร้างสรรค์สิ่งดีๆ 6 เรื่อง เมื่อเราได้รับข่าวร้าย 1 เรื่องเพื่อสร้างให้เกิดสมดุลในตัวเราและมีพลังที่จะฝ่าฟัน สู้ต่ออย่างมีพลัง

หลายคนอาจจะมองว่าทุกวันนี้  เปิดช่องทางไหน ก็เจอแต่ข่าวร้าย ข่าวลบ ข่าวที่ลดทอนกำลังใจ และยากที่จะหาข่าวดีมาชูใจ  ยากที่สร้างพลังงานเชิงบวกให้ใจฟู   แต่มีข่าวดีครับ  เพราะข่าวดี ข่าวสารสร้างสรรค์  และสิ่งที่จะช่วยสร้างความหวัง กำลังใจ พลังงานเชิงบวก ที่ช่วยทำให้เกิดความคิดเพื่อการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้ตนเอง และครอบครัว นี้  ทำได้ไม่ยาก โดยสามารถเริ่มได้ที่ตัวเราเอง เพราะอันที่จริงแล้วทั้งหมดขึ้นอยู่กับมุมมองของเรา ดังคำกล่าวที่ว่า ในวิกฤตมีโอกาส และสิ่งนี้สามารถเริ่มได้ทันที

  1. ให้เริ่มมองดูสิ่งรอบๆ ตัวเรา เราอาจจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน เริ่มจากการตั้งคำถามง่ายๆ ว่า วันนี้เราเห็นอะไรงดงามบ้าง วันนี้เรามองเห็นสิ่งงดงามอะไรรอบๆ ตัวเราอะไรบ้าง” “วันนี้เราอยากจะขอบคุณอะไรหรือใครบ้างไหม ความรู้สึกขอบคุณ Gratitude สามารถสร้างพลังงานบวกให้มนุษย์เราได้อย่างน่ามหัศจรรย์ เราอาจรู้สึกขอบคุณ COVID-19 ที่ทำให้เรามีเวลากลับมาทบทวนตนเอง ทบทวนเป้าหมายของตัวเราหลายคนอาจจะพบว่า COVID-19 ทำให้มีเวลาอยู่กับครอบครัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้ได้เกิดความคิดใหม่ๆ ในการที่จะปรับตัว ปรับสภาพแวดล้อม ได้พัฒนาตนเอง…พึงระลึกว่า เมื่อถามคำถามถูกต้อง ก็จะได้รับคำตอบที่ถูกต้องเสมอ
  2.  อีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่เริ่มได้ด้วยตัวเราเองอีกเช่นกัน ก็คือการสุ่มแสดงความเอื้ออาทร ความอ่อนโยน Random Act of Kindness คือการกระทำของเราบางอย่างเพื่อผู้อื่น เป็นการกระทำที่ผู้อื่นไม่ได้คาดหวังให้เราทำ ซึ่งอาจรวมถึงการมอบสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ให้กับผู้อื่น ใหญ่เล็กไม่ใช่เรื่องที่สำคัญ แต่เป็นการกระทำเพื่อแสดงให้เห็นถึงความรัก ความใส่ใจ ความเอื้ออาทร ความเมตตา ความเป็นมนุษย์ เช่นทักทายพูดคุยกับพนักงานรักษาความปลอดภัย มอบน้ำดื่มให้กับเจ้าหน้าที่ที่มาเก็บขยะ ชื่นชมพนักงานส่งเอกสาร พนักงานส่งอาหาร ผู้ที่ต้องมาทำหน้าที่ท่ามกลางวิกฤต เป็นการส่งต่อพลังงานเชิงบวกให้กับผู้อื่น  ที่ทำให้เราได้รับพลังบวก ได้ข่าวดีนั้นทันที

การสร้างความหวัง ความเชื่อมั่น ความไว้วางใจเป็นสิ่งจำเป็นในขณะนี้!!!และการเปลี่ยนเชิงระบบ จะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ ความเมตตา ความเอื้ออาทร ความรัก  ขอเชิญทุกท่านมาร่วมกันสร้างข่าวดี เพื่อสร้างและส่งต่อพลังงานเชิงบวกให้กันและกัน..ให้คนไทยมีรอยยิ้ม มีสุขภาวะดี มีไอเดียสร้างสรรค์ พร้อมก้าวผ่านวิกฤต นี้ไปในที่สุด”  #ร่วมส่งต่อพลังงานบวก https://web.facebook.com/groups/223666676296938